ปัจจุบันนี้มีช่องทางในการซื้อของมากมาย ทั้งการจ่ายสดและการผ่อน ในส่วนของการผ่อนของก็สามารถใช้หลากหลายวิธีเพื่อผ่อนสินค้า โดยเฉพาะการผ่อนของไม่ใช้บัตร ผ่อนทองบัตรประชาชนใบเดียวหรือผ่อนสินค้าออนไลน์ ก็เป็นอีกแนวทางที่ง่ายดาย และทำให้คุณได้สินค้ามาใช้ก่อนแม้จะไม่มีบัตรเครดิตก็ตาม แต่วิธีนี้มันคืออะไร และมีรายละเอียดเพิ่มเติมยังไงบ้าง ลองมาศึกษาไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
ผ่อนของไม่ใช้บัตรในที่นี้หมายความว่า คุณสามารถที่จะผ่อนสินค้าผ่านแอพผ่อนของไม่ใช้บัตรที่คุณต้องการจะซื้อ ด้วยการทยอยจ่ายเงิน โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้บัตรเครดิตเป็นเครื่องการันตีความสามารถในการจ่าย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะใช้หลักฐานอื่น ๆ ทดแทน เพื่อที่จะเป็นการยืนยันว่าคุณจะผ่อนสินค้าไม่มีบัตร และจ่ายเงินส่วนที่เหลือได้ตามช่วงเวลาที่แต่ละร้านค้ากำหนดได้
ผ่อนของไม่ใช้บัตร จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อาจจะยังไม่มีเงินก้อนผ่าน แต่ต้องการนำเอาสินค้านั้นไปใช้งาน ถึงแม้จะไม่มีบัตรเครดิต หรือไม่มีวงเงินที่ธนาคารกำหนด ก็สามารถที่จะผ่อนโทรศัพท์ไม่ใช้บัตร หรือผ่อนของอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า ผ่อนของไม่ใช้บัตรสามารถผ่อนอะไรได้บ้าง? ในความเป็นจริงแล้ว สามารถที่จะผ่อนสินค้าได้ทุกชนิดผ่านแอพผ่อนของไม่ใช้บัตร อาจจะเป็นการผ่อนสินค้าออนไลน์หรือออฟไลน์ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง ทำให้ไม่สามารถที่จะจ่ายได้ในงวดเดียว
ยกตัวอย่างเช่น ผ่อนมือถือไม่มีบัตร ที่คุณสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านการผ่อนของไม่ใช้บัตรได้ หรืออาจจะเป็นในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ Notebook คุณก็สามารถผ่อนคอมพิวเตอร์ไม่ใช้บัตรเครดิตได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการผ่อนสินค้า shopee ไม่มีบัตร และผ่อนสินค้าไม่มีบัตร Lazada ด้วย
ในส่วนของเงื่อนไขการผ่อนของไม่ใช้บัตร เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นจะต้องศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะในแต่ละร้านที่รับการผ่อนของไม่ใช้บัตรเครดิต จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมือนกันดังต่อไปนี้
1 ช่วงอายุที่สามารผ่อนสินค้าไม่มีบัตรได้ จะต้องเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะหรือมีอายุมากกว่า 20 ปี ไปจนถึงอายุ 60 ปี
2 เป็นคนที่มีสัญชาติไทย ร่วมไปกับข้อมูลพื้นฐานของแต่ละบุคคลเพื่อพิจารณาการใช้บัตรประชาชนผ่อนโทรศัพท์
3 คนที่จะผ่อนสินค้าไม่มีบัตรควรมีเงินเดือนหรือมีรายได้ และมีอายุการทำงานอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป
นอกจากนี้ อาจจะมีการเรียกถามหาเอกสารแสดงรายได้ หรือรายการบัญชีเงินฝากในธนาคาร ทั้งนี้ แต่ละบริษัทก็อาจจะมีคุณสมบัติอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นไปอีก เพื่อที่จะเป็นตัวการันตีว่าลูกค้าที่ผ่อนของไม่ใช้บัตร จะสามารถนำเงินมาใช้คืนตามช่วงเวลาที่กำหนดได้จริง ๆ
สิ่งสำคัญเวลาที่คุณผ่อนของไม่ใช้บัตร และควรจะต้องพิจารณา ก็คือ โปรโมชั่น เพราะแต่ละที่ที่จะให้สิทธิการผ่อนของที่แตกต่างกันออกไป บางที่ก็อาจจะมีของแถมเอาไว้ล่อตาล่อใจ หรือบางที่อาจจะมีส่วนลดพิเศษ หรือบริการเพิ่มเติมเฉพาะคุณ
อยากให้ลูกค้าทุกคนพิจารณาในสิทธิพิเศษการผ่อนไม่ใช้บัตรด้วย เพราะอาจจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า ควรจะเลือกผ่อนของไม่ใช้บัตรกับบริษัทหรือห้างร้านไหนมากกว่ากัน เช่น การผ่อนคอมพิวเตอร์ไม่ใช้บัตรเครดิต หรือการผ่อนโทรศัพท์ไม่ใช้บัตร ที่อาจจะได้รับของแถมอื่นๆ เพิ่มมา เป็นต้น
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าทุกคนพึงได้รับ หากคุณมีการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ทางออนไลน์โดยละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจผ่อนของไม่ใช้บัตร/ผ่อนโน๊ตบุ๊คบัตรประชาชน
ส่วนใครที่ยังสงสัยว่าควรที่จะผ่อนของไม่ใช้บัตรที่ไหนดีวันนี้ เรามีตัวอย่างมาแนะนำแอพผ่อนของไม่ใช้บัตรให้คุณได้รู้จัก ยกตัวอย่างเช่น
1 การผ่อนสินค้า shopee ไม่มีบัตร ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คุณจะมาจะซื้อสินค้าออนไลน์จาก Application shopee โดยได้รับสินค้าก่อนและค่อยจ่ายเงินทีหลังได้
2 ส่วนของ Lazada ออนไลน์ ก็มีบริการผ่อนสินค้าไม่มีบัตร lazada เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใด ๆ ก็ตามใน Lazada คุณสามารถใช้สิทธิพิเศษนี้ ด้วยการรับของมาก่อน แล้วค่อยผ่อนคืนตามงวดที่กำหนดได้
3 นอกเหนือจากการผ่อนสินค้าออนไลน์ เครือข่ายมือถืออย่าง True AIS หรือ Dtac ก็มีบริการผ่อนมือถือไม่มีบัตรเครดิต แต่ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวได้เช่นกัน ทำให้คุณมีโอกาสจะผ่อนโทรศัพท์ไม่ใช้บัตรเพื่อสร้างรายได้ได้ก่อน พอมีเงินเมื่อไหร่ก็นำเงินไปคืนตามงวดที่แต่ละบริษัทกำหนด
จะเห็นได้ว่าการผ่อนของไม่ใช้บัตร หรือผ่อนมือถือไม่มีบัตร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณสามารถทำได้ ในกรณีที่คุณอาจจะยังไม่มีเงินก้อนมากเพียงพอที่จะซื้อสินค้านั้น ๆ และไม่มีบัตรเครดิตในการผ่อนชำระรายเดือน ก็สามารถที่จะผ่อนของไม่ใช้บัตรเครดิตได้เหมือนกัน
เพียงแต่จำเป็นจะต้องศึกษาทั้งเงื่อนไข คุณสมบัติ และโปรโมชั่นของแต่ละบริษัทให้ดี เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริษัทที่ไหนดีที่เหมาะสมในการผ่อนของไม่ใช้บัตรมากที่สุดนั่นเอง
